ทรงบ้านโมเดิร์น

ทรงบ้านโมเดิร์น

ทรงบ้านโมเดิร์น

ทรงบ้านโมเดิร์น เย็นฉ่ำ สัมผัสน้ำ สวยสดชื่นในบ้านโมเดิร์นทรอปิคอลB House ออกแบบโดย Gohte Architects เพื่อให้เป็นบ้านสำหรับลูกค้าที่มีภาพบ้านในอุดมคติแบบเขตร้อน ผสมผสานกับการออกแบบสไตล์บาหลีแบบชนบท ที่เน้นให้แสงธรรมชาติและการไหลเวียนของอากาศผ่านเข้าสู่ตัวบ้านแบบไม่แวะที่ไหน

ภายนอกภายในยังมีกลิ่นอายความรู้สึกคุ้ยเคยด้วยวัสดุที่มักใช้กันในบาหลี และให้ความเป็นส่วนตัวในทุกพื้นที่ใช้สอยของบ้าน แท้จริงแล้ว ด้วยมุมมองของพื้นที่หัวมุมที่สามารถมองเห็นได้จากหลายด้าน ทำให้ต้องคิดพิจารณาทุกองคืประกอบอย่างรอบคอบ เพื่อให้บ้านออกมาดีที่สุดตรงใจที่สุด

บ้านโมเดิร์นทรอปิคอล

ทรงบ้านโมเดิร์น

บ้านสองชั้นขนาดใหญ่กว่า 634 ตารางเมตรหลังนี้ สร้างอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย การดีไซน์ภาพรวมภายนอกของบ้านนั้น สถาปนิกอธิบายว่าเป้าหมายของการออกแบบไม่ใช่การสร้างบ้านให้ดูเป็นก้อนเดียวขนาดใหญ่ สถาปนิกจึงเล่นกับองค์ประกอบของบ้านด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะส่วน  Facade

หรือเปลือกตกแต่งที่ด้านหน้าอาคาร  ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดสำคัญของบ้านที่กำหนดการรับรู้ทั้งหมด ครึ่งบนของบ้านจึงใช้เป็นหนสีอ่อน ๆ ส่วนชั้นล่างจะใช้วัสดุและโทนสีต่าง ๆ กัน ทำให้รู้สึกว่าบ้านมีมิติทางสายตาที่หลากหลาย

จะสังเกตว่า แทนที่นักออกแบบจะเลือกใช้วัสดุเดียวกันทั้งหมด แต่สถาปนิกกลับใช้ไม้ระแนงเป็นซี่ ๆ เรียงตัวในแนวตั้งสูงสองชั้นในบางส่วน เพื่อให้ตัดกับองค์ประกอบของส่วนหน้าที่ทำจาก หินอ่อนติดตั้งใน แนวราบด้วยการยืนอยู่ในแนวดิ่งท่ามกลางวัสดุหินอ่อนแนวนอน ทำให้ไม้สีน้ำตาลเข้มกลายเป็นจุดโฟกัสของบ้านไปในทันที

การออกแบบสไตล์ทรอปิคอล เกี่ยวข้องกับแสงธรรมชาติ และ การหมุนเวียนของอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้กระจกและช่องว่าง แนวความคิดใน การออกแบบที่พื้นที่ที่สำคัญ เช่น ห้องนอนใหญ่ ห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร และห้องครัว จะต้องได้รับมุมมองที่ดีที่สุด โดยไม่ลืมความเป็นส่วนตัวของลูกค้า อย่างเช่น ข้าง ๆ

บ้านจะเป็นสระว่ายน้ำสำหรับออกกำลังกายกลางแจ้ง และให้น้ำช่วยเพิ่มความเย็นสดชื่นให้บ้าน  เพื่อให้มั่นใจถึงความเป็นส่วนตัวของสระน้ำและตัวบ้าน จึงมีกำแพงหินสูงเรียงกันตามแนวสระ วัสดุอย่างหินที่ปกคลุมยังช่วยสร้างบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติทั้งภายในและภายนอกอาคาร

ที่ชั้น 1 ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่น ห้องทานอาหาร และ Pantry Space ได้รับการออกแบบด้วยแนวคิด Open Space เพื่อประหยัดพื้นที่ให้ความรู้สึกต่อเนื่อง และ ยังให้ความรู้สึกอบอุ่นเพราะ ทุกคนสามารถเดินเข้ามาใช้พื้นที่ได้พร้อม ๆ กัน นอกจากนี้ผนังด้านหนึ่งของบ้านยังเป็นกระจกมีประตูบานเลื่อนเปิดเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำ

ทำให้ทุกพื้นที่สามารถมองออกไปรับวิสัยทัศน์สระได้ หมดระหว่างพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางมีบันไดเชื่อมระหว่างชั้นที่หนึ่งกับชั้นสอง ที่ให้ look โมเดิร์นด้วยการเลือกวัสดุที่มีพื้นผิวเงาวาววับ อาทิ ราวกันตกกระจกใส โคมไฟแขวนสีโลหะทองแดง เข้ากันได้ดีกับฝ้าหลุมที่ซ่อนไฟสี warm เฉดใกล้เคียงกับโคมห้องสมุดสำหรับทำงาน

ทรงบ้านโมเดิร์น

ทำการบ้าน อ่านหนังสือ จัดวางหนังสือไว้เต็มชั้นไม้ มีพื้นที่เงียบสงบให้มีสามธิในการทำงาน แต่ยังใส่ลูกเล่นให้ห้องน่าสนใจขึ้นด้วยการตกแต่งไฟซ่อนในชั้นวางทุกกล่องบนชั้นสองจะมีห้องนอนสำหรับเด็ก 3 ห้อง ห้องสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก และห้องนอนใหญ่ ห้องนอนเด็กได้รับ การออกแบบตามบุคลิกของแต่ละคน ในห้องนอนใหญ่จะเป็นเตียงเตี้ย ๆ ดูเรียบง่ายที่ออกแบบโดยเน้นที่หัวเตียงจัดวางให้บรรยากาศในห้องนอนดูเป็นธรรมชาติ

สำหรับห้องที่ดูแกรนด์ ฉ่ำ หรู ดูพิเศษไม่ใช่ห้องนอนแต่กลับเป็นในส่วนของห้องน้ำ ที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินห่อน กระจกกรอบสีทอง โคมไฟสวย ๆ และไฟซ่อนฝ้าที่ท้าทายสายตา แสดงให้เห็นว่าเจ้าของบ้านให้ความสำคัญกับห้องน้ำมากพอ ๆ กับส่วนอื่น และยังเป็นห้องที่สร้างความประทับใจสำหรับผู้มาเยือนได้

ไม่แพ้ห้องอื่นๆในแต่ละภูมิภาคจะมีสภาพอากาศที่ต่างกัน การสร้างบ้านจึงควรต้องตอบโจทย์เหล่านี้เพื่อให้การอยู่อาศัยมีความสะดวกและสบาย สำหรับบ้าน ในประเทศไทยและเพื่อนบ้านเขตร้อนชื้น ก็ควรเป็นบ้านที่อยู่สบายในหน้าร้อน และหลีกหนีความอับชื้นในฤดูฝนได้ด้วย โดยหลัก ๆ บ้านจะต้องมีช่องหน้าต่างให้ลมถ่ายเท หลังคาขนาดใหญ่มีองศาลาดเอียง อาจยกไต้ถุนสูง เพื่อให้บ้านเย็นสบายไม่ชื้นและป้องกันฝนได้ดี

แต่บ้านบบที่ว่าหลายคนรู้สึกว่าไม่ทันสมัย ปัจจุุบันนี้จึงมีสไตล์การออกแบบบ้านที่เรียกว่าโมเดิร์น ทรอปิคอล ( Modern Tropical Style) ขึ้นมาเป็น ทางเลือกใหม่ ๆ ด้วยเอกลักษณ์ของบ้าน คือ การสร้างสเปซที่โปร่งขนาดใหญ่ เน้นความเรียบง่ายทันสมัย และการใช้ประโยชน์จากแสง สวน และน้ำ ทำให้เข้ากับภูมิอากาศแบบร้อนชื้นที่มีทั้งร้อนอบอ้าวและฝนตกชุกมีความร่วมสมัยมากขึ้น

5 เคล็ดลับ ปรับไม้ฝาให้เข้ากับบ้านโมเดิร์น

ทรงบ้านโมเดิร์น

เมื่อนึกถึงวัสดุ “ไม้ฝา” ที่นำมาตกแต่งบ้าน อาจจะชวนให้ผู้อ่านนึกถึงบ้านไทยประยุกต์หรือบ้านในชนบทที่นิยมตีผนังบ้านด้วยเกล็ดไม้ ซึ่งอาจทำให้ตีความว่าเป็นรูปแบบที่ดูไม่ทันสมัย แต่ความเป็นจริงแล้วบ้านสไตล์โมเดิร์นสมัยใหม่ สถาปนิกกลับนิยมนำไม้มาตกแต่งผนังกันมากขึ้น เนื่องด้วยวัสดุลายไม้จะให้ความรู้สึกอบอุ่นและช่วยลดทอนความแข็งของบ้านโมเดิร์นได้เป็นอย่างดี

ในต่างประเทศก็มีวัสดุที่เรียกว่า Weatherboard Cladding เป็นไม้สังเคราะห์ที่สถาปนิกมักหยิบมาสร้างสรรค์ให้บ้านดูดี เนื้อหานี้ นำแนวทางการออกแบบบ้านสไตล์โมเดิร์นร่วมกับไม้สังเคราะห์ เอสซีจี ซึ่งไม่เพียงแค่เข้ากับบ้านสไตล์โมเดิร์น แต่ยังช่วยส่งเสริมให้บ้านดูทันสมัยและมีเอกลักษณ์ยิ่งกว่าเดิม

1. กรุผนังไม้เฉพาะจุด สร้างกิมมิกให้บ้าน 

เส้นสายที่คมชัด คือเอกลักษณ์สำคัญของบ้านสไตล์โมเดิร์น แต่หากทั้งหลังมีเพียงเส้นสายที่เรียบคม อาจทำให้บ้านดูแข็งทื่อขาดความกลมกล่อม การนำวัสดุลวดลายธรรมชาติมาตกแต่งร่วม จึงเป็นแนวทางหลักที่สถาปนิกนิยมนำมาใช้เบรกความแข็งของบ้านโมเดิร์น เสริมความอ่อนโยนชวนให้ผนังน่ามอง

ตัวอย่างภาพด้านล่างนี้ เป็นการนำไม้สังเคราะห์ มาตกแต่งร่วมกับบ้านสไตล์โมเดิร์น โดยทำการกรุผนังเฉพาะจุด วิธีนี้จะช่วยเจ้าของบ้านประหยัดงบไม่จำเป็น ต้องใช้ไม้ปริมาณมาก แต่สร้างความโดดเด่นกว่าการฉาบทาสีทั่วไปหลายเท่าตัว และด้วยตำแหน่งที่ใช้ไม่มีชายคามาบดบัง การนำไม้ฝาหรือไม้ระแนง เอสซีจี ซึ่งเป็นไม้สังเคราะห์มาใช้แทนไม้จริง จะช่วยยืดอายุการใช้งาน ไม้ไม่ผุ ไม่บวม สีสันสดใหม่ไม่เป็นเชื้อราครับ

ทรงบ้านโมเดิร์น

2. เล่นกับธีมสี ที่ไม่จำเจแค่ลายไม้

ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบลวดลาย หรือสีสันของงานไม้ และงานออกแบบบางหลังผู้ออกแบบต้องการคุมธีมสีให้ Mood & Tone ของบ้านดูกลมกลืนกันทั้งหลัง ตัวอย่างบ้านหลังนี้ เจ้าของบ้านมีความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยพลังหยินหยางที่สื่อถึงความสมดุล สถาปนิกจึงถอดรหัส หยิน หยาง ด้วยโทนสีขาว-ดำ โดยสีขาวเป็นพลังหยาง และสีดำพลังหยิน การนำวัสดุมาตกแต่งจึงจำเป็นต้องคุมธีมสีบ้านทั้งหลัง

หากงานออกแบบไม่เน้นสีสันของงานไม้ แนะนำให้เลือกซื้อไม้สังเคราะห์รุ่นที่ยังไม่ทำสี อย่างไม้ฝา เอสซีจี ผลิตจากไฟเบอร์ซีเมนต์ ตัววัสดุจริงจะเป็นสีซีเมนต์คล้าย ๆ กับปูนฉาบทั่วไป การนำมาใช้เพียงให้ช่างทาสีตามโทนสีที่ออกแบบมา จะช่วยคุมโทนให้บ้านสื่อสารอารมณ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นครับ หรือหากต้องการสีสันที่ต่างไป แต่ยังมีความทันสมัย สามารถเลือกใช้ไม้ฝา เอสซีจี สีเทานอร์ดิก และสีเทาไอคอนนิค ประกายเงาพลัส ที่เหมาะกับบ้านสไตล์โมเดิร์นและสไตล์นอร์ดิกโดยเฉพาะ

3. กรุไม้แนวตั้ง กรุไม้แนวนอน ให้อารมณ์ต่างกัน

การทำผนังตกแต่งด้วยการตีไม้ฝาเพิ่ม มักนิยมทำในสองรูปแบบ คือ แนวตั้งและแนวนอน ซึ่งให้อารมณ์ของบ้านที่แตกต่างกัน สำหรับเส้นตรงแนวตั้ง ( Straight Line ) จะให้ความรู้สึกแข็งแรงและทำให้บ้านดูสูงโปร่งขึ้น ส่วนเส้นตรงแนวนอน ( Horizontal Line ) ให้ความรู้สึกสงบ ราบเรียบ ดูกว้างตาขึ้น

อย่างไรก็ตามการเลือกระหว่างแนวตั้งหรือแนวนอน จำเป็นต้องดูภาพรวมของตัวบ้านเป็นหลัก โดยผู้ออกแบบจะให้ความสำคัญกับความสมดุลของเส้นสายเป็นสำคัญ เช่น หากต้องการให้ฟอร์มอาคารดูกว้างขึ้น เลือกใช้แนวนอน หรือหากจุดดังกล่าวดูต่ำ การใช้แนวตั้งจะช่วยให้ดูสูงขึ้นครับ

4. ลดทอนความแข็ง ด้วยมุมพักผ่อนที่อ่อนโยน

ไม่ว่าบ้านสไตล์ไหน ๆ ก็ย่อมต้องการความอบอุ่นผ่อนคลายเหมือน ๆ กัน ไม่เว้นแม้กระทั่งบ้านสไตล์โมเดิร์นที่เน้นความเรียบตรงและคมชัด เราสามารถเสริมความรู้สึกเหล่านี้ได้ด้วยการนำไม้ฝามาตกแต่งตรงเฉลียงหรือระเบียงนั่งเล่น ลวดลายของไม้จะช่วยให้มุมพักผ่อนดูอ่อนโยนผ่อนคลายกว่าวัสดุอื่น ๆ

ตัวอย่างภาพด้านล่างนี้ สถาปนิกนำไม้สังเคราะห์มาตกแต่งร่วมกับผนังทางเข้าและบริเวณชานระเบียง ทางเข้าบ้านเชื่อมต่อกับโรงจอดรถ ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยค่อย ๆ ปรับอารมณ์ขณะเดินเข้าบ้าน เป็นการลดความตึงเครียดจากความวุ่นวายภายนอกได้เป็นอย่างดี

5. ให้เส้นสายของแผ่นไม้ เป็นเส้นนำสายตา

การออกแบบบ้านสไตล์โมเดิร์น สถาปนิกไม่ได้เน้นเฉพาะ ตัววัสดุที่ดูทันสมัยเท่านั้น แต่นิยมเล่นกับเส้นสายตาที่ทำให้บ้านน่าสนใจขึ้น และหนึ่งในวิธีโดยเชื้อเชิญให้บ้าน ชวนมองคือการสร้างเส้นนำสายตาเพื่อดึงดูดให้สายตาหันมองไปยังจุดปลายทางโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างบ้านสไตล์โมเดิร์นที่มีกลิ่นอายนอร์ดิกหลังนี้ มีจุดเด่นที่หลังคาทรงจั่ว สถาปนิกจึงเลือกที่จะนำไม้สังเคราะห์ เอสซีจี เทคโนโลยีคัลเลอร์ ล็อค พลัส กรุบริเวณผนังต่อไปจนถึงฝ้าชายคา

ช่วยดึงดูดให้เส้นกรอบของจั่วมีความโดดเด่นชัดเจนยิ่งขึ้น โดยจัดเรียงไม้แบบแนวตั้งเพื่อให้เกิดเส้นนำสายตาไปสู่ยอดจั่วสำหรับใครที่ชมภาพบ้านตัวอย่างแล้ว เกิดแรงบันดาลใจ ในการตกแต่งบ้านด้วย ไม้สังเคราะห์ ไม้ฝา เอสซีจี เป็นหนึ่งวัสดุที่ช่วยตอบโจทย์เรื่องงานดีไซน์ให้กับบ้านทุกสไตล์รวมถึงบ้านโมเดิร์นได้ดี เพราะมีหลายรุ่นให้เลือก อีกทั้งปัจจุบันยังพัฒนาให้มีสีเทานอร์ดิก และสีเทาไอคอนนิค ประกายเงาพลัส ที่ช่วยตอบโจทย์บ้านยุคใหม่ให้สวยมากขึ้น